17ม.ค.67 พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าคดีป้าบัวผัน ว่า ขณะนี้ได้รับรายงานว่ามีหลักฐานคลิปวิดีโอและพยาน ให้ข้อมูลมายังตนเองว่า”ลุงเปี๊ยก”ถูกตำรวจคลุมหัว โดยมีกลุ่มชายฉกรรจ์ใช้ถุงดำคลุมศีรษะ นายปัญญา คงแสนคำ อายุ 54 ปี หรือ “ลุงเปี๊ยก” แล้วทำการซ้อม ล่ามโซ่ และบีบบังคับให้รับสารภาพว่าเป็นคนลงมือปลิดชีพ ป้าบัวผัน ที่เป็นภรรยา
คลิปดังกล่าว ถือว่าเป็นหลักฐานใหม่ที่ตนเพิ่งได้รับ ซึ่งตอนนี้ตนยังไม่ได้ดูคลิปวิดีโอดังกล่าว แต่ได้มอบหมายให้ชุดสืบสวนภาคและส่วนกลางลงพื้นที่ไปตรวจสอบแล้ว เนื่องจากมองว่าวิธีการดังกล่าวหากเป็นเรื่องจริงถือว่าผิดกฎหมาย ซึ่งจะต้องมีการสอบสวน ลุงเปี๊ยก นายปัญญา ใหม่อีกครั้ง
เพราะสาเหตุที่นายปัญญา ให้การรับสารภาพจะเป็นการถูกบีบบังคับ ซึ่งจะมีโทษตามทางกฎหมาย แต่หากกลุ่มชายฉกรรจ์เป็นตำรวจก็จะมีความผิดทั้งทางวินัยและอาญา เนื่องจากวิธีการดังกล่าวเป็นวิธีโบราณที่ปัจจุบันไม่ใช้แล้ว และเรื่องนี้ตนได้รายงานให้ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติรับทราบแล้ว
ส่วนไทม์ไลน์ที่มีการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดพบว่าช่วงเวลาที่นายปัญญา ถูกนำตัวไปที่ สภ.อรัญประเทศ หายไป 2 ชั่วโมง ทั้งที่จุดที่นำตัวนายปัญญา มาเพื่อไปที่ สภ.อรัญประเทศ ระยะทางไม่ไกลกันมาก ตนก็มีข้อสงสัยในประเด็นนี้ด้วยเหมือนกันว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่นายปัญญา จะถูกนำตัวไปซ้อมและบีบบังคับให้รับสารภาพ ประเด็นนี้ตนได้สั่งตรวจสอบแล้วเช่นกัน จะทราบผลเร็ว ๆ นี้
ส่วนเมื่อวานนี้(16 มกราคม 2567) ตนได้สอบปากคำนายปัญญา ด้วยตนเอง ยืนยันว่าไม่มีการช่วยเหลือลูกตำรวจอย่างแน่นอน เพราะพ่อเด็กที่เป็นตำรวจ สภ.อรัญประเทศ เป็นคนนำตัวผู้ก่อเหตุ 1 ใน 5 คน เข้ามอบตัวด้วยตนเอง และให้ข้อมูลผู้ก่อเหตุอีก 4 คนที่เหลือ จนตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมดและนำตัวส่งสถานพินิจ ซึ่งตรงนี้ตนถือว่าได้คำตอบแล้ว ส่วนการสอบปากคำนายปัญญา เชื่อว่าไม่ได้ถูกบังคับ แต่หลังจากมีคลิปและหลักฐานลุงเปี๊ยกถูกซ้อมก็ต้องไปตรวจสอบอีกครั้ง
ด้านที่มีการเรียกร้องให้โอนสำนวนคดีนี้มาที่กองบังคับการปราบปราม ตนมองว่าคดีนี้ไม่มีความซับซ้อน จึงมองว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องโอนคดีมาที่กองปราบฯ