Sunday, 13 October 2024

อดีตรัก ‘แซมมี่ เคาวเวลล์’ เผยสัมพันธ์พระเอกดัง ก่อนฝ่ายชายหนีไปแต่งเงียบ

ซุ่มคบกันในกองกว่า 6 ปี ไม่มีใครรู้!
อดีตรัก ‘แซมมี่ เคาวเวลล์’ เผยสัมพันธ์พระเอกดัง ก่อนฝ่ายชายหนีไปแต่งเงียบ

น้ำตานางเอก 4พระเอกเคยจีบ แซมมี่ เหตุจบรัก6ปีพระเอกติสต์ที่ไม่ค่อยมีใครรู้ บีบหัวใจช่วงหนักสุดกับวันนี้ที่พ่อไม่ได้เห็น นางเอกสู้ชีวิต ประกวดได้รถแต่ไม่มีเงินค่าทางด่วนเติมน้ำมัน

แซมมี่ เคาวเวลล์ เปิดใจใน วันบันเทิงTALK เรื่องข่าวคราวความรักที่ไม่ค่อยมีใครรู้ 15ปีในวงการ มีพระเอกมาจีบกี่คน แซมมี่ ขอตั้งสติคิด ก่อนตอบว่า 3 คน ก็เป็นคนที่หลายคนรู้จัก (3คนที่มาจีบได้เป็นแฟนมั้ย) มี 1 คน 6 ปี เอาจริงๆ ไม่ค่อยพูด 3 คนมาจีบคนละจังหวะ ไม่ได้มาพร้อมกัน จริงๆ นอกจากนั้นก็มี พอพูดถึงหลายรุ่น อ๋อมีอีกคนหนึ่ง นับเป็น 4 แล้ว คนที่ 4 มาแว้บเดียว ค่อนข้างชัดเจนว่าจีบ เราก็คุยเป็นมารยาท เป็นพี่เป็นน้องดีกว่าตอนนี้โสด พออายุเท่านี้รู้สึกไลฟ์สไตล์สำคัญ การใช้ชีวิต การดำเนินชีวิตสำคัญมาก ต้องคล้ายกัน อยู่กันไปจนแก่เฒ่าต้องเป็นเพื่อนกัน ไม่ต้องหวานโรแมนติกเหมือนตอนวัยรุ่น

ช่วงคบพระเอก 6 ปีเป็นยังไง แซมมี่ บอกว่า ตอนนั้นเราคบกันแบบเด็กๆ ไม่เปิดเผยด้วย แต่ก็มีโดนจับได้แว้บๆ นะ มีโดนถ่ายรูป (เขาติสต์ไหม) ใช่ๆ ความจริงไลฟ์สไตล์ได้ แต่ความที่เราเด็ก เรายังสนุกกับการใช้ชีวิตของเราเองด้วย เป็นช่วงจังหวะด้วย ถ้าเราในวันนี้ไปเจอกับเขาตอนนั้นก็อาจจะอยู่กันได้ยาวก็ได้ แต่มันก็ผ่านมาแล้ว ไม่เสียดายเวลา ก็เป็นช่วงที่เรามีความสุข ท้ายที่สุด เราไม่ได้อยากมีความสุขในอนาคต เราอยากมีความสุขในปัจจุบัน มีความสุขในทุกวันนางเอกสู้ชีวิต เคยมีรถที่ได้จากการประกวด แต่ไม่มีเงินค่าทางด่วน ต้องแคะกระปุกนับเหรียญบาท ไม่มีเงินที่จะจ่ายค่าทางด่วน เติมน้ำมัน ต้องประหยัดมากๆ ไม่ได้ถึงกับยากจน แต่ก็ขรุขระ ฝืด เราเป็นหัวหน้าครอบครัวอยู่แล้วตั้งแต่เข้าวงการ


ช่วงที่หนักใจสุดคือช่วงคุณพ่อป่วยเข้าโรงพยาบาลช่วงท้ายๆ ต้องวิ่งเข้ากองละครไปโรงพยาบาลอยู่อย่างนี้ไม่ได้เข้าบ้านเลย ต้องตัดสินใจเรื่องพ่ออาการไม่ดีขึ้น มะเร็งตับ จะให้ใส่ท่ออะไร ไม่อยากให้เขาทรมาน จะยื้อเพื่อตัวเราเอง สุดท้ายเขาต้องไปอยู่ดี เป็นการตัดสินใจที่ยากมาก เป็นช่วงชีวิตที่หนักที่สุดแล้ว


นางเอกสาวน้ำตาไหล ตัดสินใจไม่ยื้อ หมอให้ดริปมอร์ฟีนให้เขาผ่อนคลาย ขึ้นกับเขาจะอยู่ได้นานแค่ไหน พ่ออยู่โรงพยาบาลประมาณ 2 เดือน เริ่มทำใจแล้วว่าคงจะไม่ได้กลับบ้าน ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้เราไม่อยากเป็นลูกที่เห็นแก่ตัว ยื้อเขามันเป็นการสนองความต้องการเราให้เขาได้อยู่ แต่อยู่แล้วนอนแบบนั้น เราตัดสินใจจากคุณภาพชีวิต เรารับรู้ได้ว่าเขายังไม่อยากไป

ห้วงนาทีสุดท้าย เราเกาะขอบเตียงอยู่กับเขา ไม่อยากให้เขาเป็นห่วง เพราะเขาห่วงหนูมาก บอกให้เขาไปได้เจอแสงที่ไหนไปเลยนะ พี่สาว กับแม่ เราดูแลเอง เราก็บอกเขาว่า เราไหวมาถึงวันนี้ก็ภูมิใจกับตัวเอง ย้อนไปถ้าเราทำดีกว่านี้ พัฒนาเร็วกว่านี้ ของพวกนี้เราอาจจะทำให้มันเกิดขึ้นได้เร็วกว่านี้ แล้วเราอาจจะดูแลพ่อได้ดีกว่านี้ พอเขาไปแล้วเราได้พรีเซ็นเตอร์โน่นนี่นั่นมา มีรูปติดรถบัส รถไฟฟ้า แต่เขาไม่ทันได้เห็น