ไม่ธรรมดา! หาจ่ายเดือนละล้านไม่เสียดาย
เปิดรายได้ ‘เบสท์ รักษ์วนีย์’ ใช้หนี้แทน ‘สมรักษ์’ ได้เท่านี้รวยอื้อ ยอมแบกภาระทั้งที่อายุยังน้อย
เปิดรายได้ เบสท์ รักษ์วนีย์ หาเงิน ใช้หนี้แทน สมรักษ์ คำสิงห์ เดือนละเกือบล้าน เผยพ่อแม่เลิกกันนานแล้ว
จากกระแสข่าวฉาวสะเทือนวงการ เมื่ออดีตนักมวยชื่อดัง สมรักษ์ คำสิงห์ พ่อของนางเอก-ยูทูบเบอร์สาว เบสท์ รักษ์วนีย์ ที่ได้ถูกเด็กสาวอายุ 17 แจ้งความล่วงละเมิด ทำอนาจาร หลังรู้จักกันที่ผับ ก่อนขึ้นรถมอเตอร์ไซค์พากัน
ไปโรงแรม ซึ่งหลายคนก็ต่างเป็นห่วงและกังวลว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะกระทบกระเทือนจิตใจ สาวเบสท์ เพราะก่อนหน้านี้เจ้าตัวก็ช่วยพยุงครอบครัวมาโดยตลอดล่าสุด สาวเบสท์ ได้มาออกรายการแฉ เปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า “ตอนนี้พ่ออยู่ขอนแก่น ตั้งแต่เกิดเรื่องยังไม่ได้เจอ ตอนที่เกิดเรื่องครอบครัวคำสิงห์ไปถ่ายงานที่ขอนแก่น หนู โบ๊ท (น้องชาย)
กับแม่ก็กลับก่อน พ่อเขาอยู่ต่อ เราก็แยกกัน พอถึงกรุงเทพฯ 1 วัน พ่อก็โทรมาบอกว่าเกิดเหตุการณ์นี้ แต่หนูไม่คิดว่าเป็นข่าวดังขนาดนี้ ตอนแรกเครียด ไม่รู้เรื่องกฏหมาย ไม่อยากให้พ่อติดคุก พอทนายให้คำปรึกษาเริ่มเบาใจลง บอกพ่อต้องโทษตัวเองก่อน ก่อนที่จะไปโทษคนอื่น”
“พ่อกับแม่เหมือนเป็นเพื่อนกัน อยู่บ้านเดียวกันแต่แยกห้องนอนมานานแล้ว มีความสัมพันธ์เหมือนเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน คุยอัปเดตชีวิตกัน ดูแลลูก จนวันหนึ่งแม่เป็นคนตัดสินใจหย่า ถ้าแม่โอเค เราก็โอเค เราหัวอกผู้หญิงอะเข้าใจ เขาเลยไปหย่ากันก่อนเกิดเรื่อง”“หนูมีบ้านอยู่ 2 หลัง แต่พ่อหนูไม่ได้มีบ้าน ถ้าเขาหย่ากับแม่แล้วจะให้เขาไปอยู่
ไหน ก็ต้องอยู่กับหนูนี่แหละ หนูบอกว่าการหย่ากันไม่ได้แปลว่าพ่อต้องไปอยู่ที่อื่นที่ไม่มีเรา เราสามารถอยู่ด้วยกันได้นะ และเบสท์ก็สามารถเลี้ยงดูพ่อได้ปกติ มีที่นอน มีรถให้พ่อใช้ปกติ หนูให้พ่อทำตัวปกติ อย่าคิดว่าหนูทิ้ง หรือแม่ทิ้ง เราทุกคนรักพ่อเหมือนเดิม แค่อยู่คนละห้อง”
“ส่วนเรื่องค่าใช้ต่อเดือน เดือนหนึ่งต้องส่งให้พ่อใช้หนี้ ก็เกือบ ๆ ล้านค่ะ เพราะพ่อหนูมีคดีลอตเตอรี่แล้วต้องผ่อนจ่าย ยังไม่รวมค่าบ้าน ค่ารถนะคะ ต่อเดือนต้องหาเงินให้ได้เหยียบล้าน ล้านกว่าๆ 1.5 ล้าน ประมาณนี้ค่ะ ถ้าถามว่าเดือนไหนหาไม่ทัน หนูยังไม่เคยถึงจุดนั้นนะคะ เพราะหนูอาจจะโชคดีที่มีแฟนคลับที่น่ารักคอยดูยูทูบเรา คอยซัพพอร์ต ต้องขอบคุณแฟนคลับด้วยค่ะ”
ชีวิตเปลี่ยนในวันที่พ่อล้มละลาย ทำให้เราต้องเอาเงินจากยูทูบมาใช้จ่ายในบ้าน ทำให้เราต้องขยันขึ้น มีผู้นำมากขึ้น เลยทำให้วันนี้เรามาถึงจุดตรงนี้ ถ้าพ่อไม่ล้มละลาย หนูอาจจะเป็นเด็กน้อยธรรมดาก็ได้ ตอนนี้ก็เป็นหัวหน้าครอบครัวดูแลทุกคนในบ้านค่ะ”