จากกรณีสุดอื้อฉาวของสมรักษ์ คำสิงห์ ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของไทย ที่ถูกเยาวชนอายุ 17 ปี กล่าวหา จนนำไปสู่การแจ้งความ ซึ่งทางสมรักษ์ก็ยอมรับว่ามีการพาเข้าโรงแรมจริง ส่วนเรื่องที่เหลือให้ทางทนายเป็นคนจัดการ
ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวทำให้เกิดการขุดถึงสัมภาษณ์ของสมรักษ์ คำสิงห์ และ เสาวนีย์ ภรรยาของสมรักษ์ ที่ให้สัมภาษณ์ในรายการ Club Friday Show เมื่อปี พ.ศ. 2564 ถึงการที่สมรักษ์เจ้าชู้และมีคนเข้ามาหาตลอดเวลา ถึงขั้นที่ต้องจ้างหย่ากันเลย
โดยที่ช่วงหนึ่งของรายการ Club Friday Show คุณเสาวนีย์ เผยว่า มีคนจ้างสมรักษ์ให้หย่ากับตน 2 ล้านบาท แต่ตนบอกว่ามันไม่พอ ณ ตอนที่เกิดเหตุการณ์นั้นคือปี 2540 ถ้าจะหย่าก็ต้อง 10 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้มันก็ขึ้นกับผู้ชายด้วยว่าเขายังเลือกเราอยู่ เราก็ไม่ควรไปตอบโต้คนที่มารุกราน หากอยากจะเลิกกันแล้วอยู่คนเดียว แบบนั้นก็สมควรเลิก แต่หากจะเลิกกันแล้วไปเอาคนใหม่ เราก็ไม่รู้ว่าคนใหม่จะเป็นอย่างไร อีกอย่างสมรักษ์ก็คือพ่อของลูก การอยู่พร้อมหน้ามันอบอุ่นมากกว่า เพียงแค่ว่าตอนที่เขานอกลู่นอกทาง เราก็ตบ ๆ เข้ามาเท่านั้น
คุณเสาวนีย์ยังบอกอีกว่า สิ่งที่ยึดเหนี่ยวตนเอาไว้คือทะเบียนสมรส ต่อให้สมรักษ์ย้ายของออกจากบ้าน ไปมีเมียใหม่ ก็ไปได้ แต่ตนจะกอดทะเบียนสมรสเอาไว้ เพราะคนที่เป็นเมียน้อยอยากได้อย่างเดียวคือทะเบียนสมรส คนที่เป็นเมียน้อยก็อยากจะเป็นเมียหลวง ดังนั้น ทะเบียนสมรสเท่านั้นที่จะกำราบคนพวกนี้ ต่อให้เขาอยากเลิกกับเราแค่ไหนก็ไม่ต้องหย่า เพราะมันคือความสะใจ
แต่ถึงจะพูดแบบนี้ เวลาที่เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ นั้น คุณเสาวนีย์ยอมรับว่าก็ร้องไห้ฟูมฟายเหมือนกัน แต่ถ้าเขายังเลือกเรา เราก็ไม่ต้องกลัว แค่ต้องดึงเขาให้กลับมา ซึ่งกลับมาในที่นี้คือกลับมาหมด เพราะทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับเรา อันดับแรกเราต้องตั้งสติ อย่างี่เง่า อย่าเอาผู้หญิงคนนั้นมาเปรียบเทียบ เพราะผู้หญิงพวกนั้นไม่ได้มีค่าอะไรกับเราเลย มองว่าสามีเราต้องการอะไร และปฏิบัติอย่างไรเพื่อให้เขากลับมา พร้อมกับที่คุณเสาวนีย์บอกว่า “เขาอาจจะเป็นสามีที่ดีไม่ได้ แต่เขาเป็นพ่อที่ดีมาก ๆ”
เมื่อถามว่าหยุดเจ้าชู้หรือยัง สมรักษ์ก็บอกว่า “ตนอยู่ของตนเฉย ๆ และไม่เคยปิดบังว่ามีครอบครัว” ในขณะเดียวกัน สมรักษ์ก็ให้สัมภาษณ์กับ ช่อง 3 ว่า ตนและภรรยาได้หย่ากันมาแล้วกว่า 2 เดือน
