สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านที่น่ารัก ได้มาพบเจอกันอีกแลัว กับแอดมินและทีมงานเพจสายบุญ เราจะคอยนำเสนอเรื่องราวดีๆ ให้ความใจโลงใจและมีประโยชน์แก่แฟนเพจทั้งหลายให้ท่านได้อ่านอยู่เป็นนิจนะคะ วันที่ชีวิตไม่ข าดทุน คือ วันที่ทำบุญ และให้อภัย วันที่ชีวิตมีกำไร คือ วันที่ตั้งใจทำความดี ฝากไว้เตือนใจนะคะ
ชีวิตที่เลือกได้.. ในนิยามของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป หลายคนเลือกชีวิตแบบทำตามสิ่งที่เรียนมา จบก็ทำงานหาความก้าวหน้าและเติบโต แต่ก็มีบางคนเลือกชีวิตที่ “อิสระ” ทำในสิ่งที่รัก!

‘ขุน-พิศิษฐ จันทร์หงส์’ ปัจจุบันอายุ 41 ปีและ ‘จอย-วันเพ็ญ เด่นเพียร’ คู่ชีวิตในวัยเดียวกัน เล่าให้ฟังว่า หลังเรียนจบปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า จาก ม.มหานคร
ขุนเองไม่ได้คิดอยากทำงานที่ไหนเลยเลือกตรงดิ่งกลับมาบ้านที่ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร เพื่อ ช่ ว ย พ่อแม่ทำสวนดีกว่าด้วยที่บ้านเองก็พอมีที่ทางทำมาหากินได้และตนก็ไม่อยากไปเป็น ลู ก น้องของใคร และส่วนจอยนั้น เรียนทางด้านวิทยาศาสตร์การอาหาร(Food Science) มาจาก ม.ราชภัฏสวนสุนันทา

เคยทำงานประจำอยู่ช่วงสั้นๆ แล้วพอทั้งสองแต่งงานกันก็เลยตั ดสินใจลาออกมาดีกว่า เพื่อ ช่ ว ย กันทำสวนอย่างเต็มตัวอยู่ที่บ้านแทนนับแต่นั้น ขุน บอกด้วยว่า ที่เลือกมาผลิต ‘เมล่อน’ ในโรงเรือนซึ่งทำมา 5 ปีกว่าแล้ว จุดเปลี่ยนที่สำคัญคือเกิดจากพืชเศรษฐกิจหลัก แก้วมังกร กับมะม่วง ที่พ่อแม่ทำมากว่า 10-20 ปีนั้น ได้หมดอายุลง

กอปรกับที่เห็นมาตลอดเวลาว่าจะต้องมีการรับมือ ‘โร ค-แมลงศั ตรู’ ที่เข้ามารบกวนหนักข้อขึ้นทุ กปี ๆ เพิ่มปัญหาเรื่องต้นทุนผลิตจากการต้องใช้ปุ๋ย-ยามากขึ้นเรื่อย ซึ่งสวนทางกับราคาผลผลิตที่กะเกณฑ์อะไรใด ๆ ไม่ได้เลย แต่หลังจากศึกษาเกี่ยวกับเมล่อนแล้ว พบว่าพืชชนิดนี้สามารถที่จะบริหารจัดการได้ตั้งแต่ระยะเวลาของการปลูก-เก็บเกี่ยว นับไปเลย 90 วัน(หรือบวกลบไม่เกิน 5 วัน)

ซึ่งทำให้สามารถกำหนดและวางแผนได้ว่าอยากจะมี ผลผลิตออกมาช่วงไหน เพื่อเตรียมการเรื่องการตลาดล่วงหน้าไว้ และอีกอย่างสามารถผลิตได้ทั้งปีโดยไม่ต้องง้อฤดูกาล ต่างกับพืชกลางแจ้งที่เห็นได้ชัด ปัจจุบันการผลิตพืชเมล่อนของ “บ้านสวนพิศิษฐ”ที่เริ่มต้นมาจาก 2 โรงก่อนถึงตอนนี้ได้ขยายเพิ่มขึ้น เป็น 8 โรงเรือนแล้ว

ซึ่่งสามารถที่จะยืนยันได้อย่างดีว่า สิ่งที่เจ้าของเลือกและตั้งใจทำมานั้น มันเวิร์กจริง! กลายเป็นที่พบปะของกลุ่มคนสนใจการเกษตรแวะเวียนกันเข้ามาเป็น ลู ก ค้ า อุดหนุนสินค้า และเพลิดเพลินไปกับผลผลิตที่ใครมาเห็นต่างก็ชื่นใจไม่แพ้คนปลูกเช่นเดียวกัน

และสำหรับ‘ขุน’ แล้ววันนี้เขาบอกเพียงว่า เลือกความอิสระไม่คิดอยากไปเป็น ลู ก น้องใคร “ผมก็พอใจนะ เพราะว่าทำนี่มันเป็นงานของเราเลย แต่ถ้าเราไปทำงานวิศวะอย่างนั้นมันเป็น งานของเขามันไม่ใช่งานของเรา คืองานอันนี้เราทำมัน ของ ๆ เราเลย เราสร้างขึ้นมาเลย ก็มันสบายใจกว่าที่จะไปทำงานข้างนอก”

ขอขอบคุณข้อมูล mgronline.com เรียบเรียงโดย เพจสายบุญ