Wednesday, 27 September 2023

จากหวังกู้ซื้ อบ้านผ่าน ให้เซลส์ไปช่วยทำบัญชีให้ กลับถูกห ล อ กใช้ เจอภาษีย้อนหลัง 800 ล้าน

09 Sep 2022
8125

สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านที่น่ารัก ได้มาพบเจอกันอีกแลัว กับแอดมินและทีมงานเพจสายบุญ เราจะคอยนำเสนอเรื่องราวดีๆ และมีประโยชน์แก่แฟนเพจทั้งหลายให้ท่านได้อ่านอยู่เป็นนิจนะคะ ฝากไว้เตือนใจนะคะ วันที่ชีวิตไม่ข าดทุน คือ วันที่ทำบุญ และให้อภัย วันที่ชีวิตมีกำไร คือ วันที่ตั้งใจทำความดี

เหยื่ อร้องทุ กข์ ถูกหล อ กเปิดบัญชีธนาคาร เหตุหวังได้สเตตเมนต์กู้ซื้อบ้านผ่าน แต่จู่ ๆ โดนส ร รพากรเรียกเก็บภาษี 800 ล้าน ยันไม่มีส่วนรู้เห็น วันที่ 5 กันยายน 2565 เดลินิวส์ รายงานเรื่องราวร้ องทุ กข์ของ นายกุลวัฒน์ อายุ 42 ปี และ น.ส.สุรนุชอายุ 29 ปี ซึ่งถูกหล อ กให้เปิดบัญชีธนาคาร อ้ างว่าจะเดินบัญชีให้ สุดท้ายถูกส ร รพากรเรียกเก็บภาษีกว่า 800 ล้านบ าท

น.ส.สุรนุช เปิดเผยว่า ได้รู้จักกับ น.ส.ณัฐยาน์ อายุ 46 ปี กับสามี ทั้งสองเป็นเจ้าของบริษัทหลายแห่ง ต่อมาตนต้องการกู้เงินธนาคารซื้ อบ้านแต่ติดที่ไม่มีการเดินบัญชี ทางสามี น.ส.ณัฐยาน์ จึงเสนอว่า ให้ไปเปิดบัญชีธนาคาร แล้วจะเดินบัญชีทำสเตตเมนต์ให้จะได้กู้ธนาคารผ่าน ด้วยความที่อยากมีบ้าน จึงตกลงไปเปิดบัญชีธนาคารครั้งแรกเมื่อปี 2563 โดยนำสมุดบัญชี บัตรเอทีเอ็ม รวมถึงแอปฯ ธนาคาร ไว้กับเขาทั้งหมดเพราะไว้ใจ

ไม่คิดว่าจะถูกนำไปใช้ในทางที่ผิ ด จากนั้นก็ไม่เคยสนใจขอดูความเคลื่อนไหวบัญชีเลย กระทั่งสามี น.ส.ณัฐยาน์ เสียชีวิต เมื่อเดือนตุลาคม 2564  น.ส.ณัฐยาน์ ก็เข้ามาดูแลแทนโดยให้ตนเปิดบัญชีเพิ่ม

กระทั่งวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 มีหนังสือจากสรรพากรพื้นที่ร้อยเอ็ด เตือนให้ไปชำระเงินภาษีอากรคงค้ าง โดยระบุชื่อของตนในฐานะผู้ต้องหาร่วมรับผิดชอบห นี้ของห้างหุ้นส่วนจำกัดแห่งหนึ่ง ระบุว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัดดังกล่าวค้ างค่าภาษีอากร สำนักงานสรรพกร พื้นที่สระแก้ว ลงวันที่ 8  กุมภาพันธ์ 2565 เป็นเงิน 867,958,621.33 บาท โดยให้ไปชำระที่สรรพากรพื้นที่ อ.อาจสามารถ ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ หากพ้ นกำหนดจะถูกดำเนินค ดีตามม าต ร า 32 แห่งประมวลรัษฎากร

น.ส.สุรนุช เปิดเผยว่า หลังจากทราบเรื่องก็ถึงกับช็ อ ก เพราะตนไม่เคยรู้เรื่องหรือเกี่ยวข้องกับห้างหุ้นส่วนดังกล่าวเลย คงเป็นการนำหลักฐานบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีนำไปใช้ในเรื่องดังกล่าว จึงนำเรื่องไปปรึกษาทน ายความ พร้อมทั้งโทร. ไปชี้แจงกับทางสรรพากร รวมถึงโทร. หา น.ส.ณัฐยาน์ ซึ่งอ้ างว่าจะจัดการให้ สุดท้ ายก็เงี ยบห ายไปติดต่อไม่ได้ จึงหมดหนทาง และตั ดสินใจนำเรื่องนี้มาร้องทุ กข์กับสื่อในครั้งนี้

ขณะที่ นายกุลวิวัฒน์ อีกหนึ่งผู้เสียห าย เปิดเผยว่า ถูก น.ส.ณัฐยาน์ หล อ กว่าจะเดินบัญชีให้เพื่อกู้ซื้อบ้านเหมือนกัน จึงไปเปิดบัญชีธนาคารให้ จากนั้นผ่านไป 3 เดือน ได้มาพบกับ น.ส.สุรนุช พอทราบเรื่องคิดว่าถูกหล อ กแน่ จึงตรวจสอบพบว่ามีชื่อตนปรากฏเป็นกรรมการบริหารบริษัทแห่งหนึ่งคนเดียว มีเงินหมุนเวียนกว่า 200 ล้านบ าท จึงรีบไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สน.โชคชัย เป็นหลักฐาน และเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ว่าไม่มีส่วนรู้เห็นในเงินดังกล่าว

ต้องการให้ตรวจสอบเพราะมีเงินหมุนเวียนเข้า-ออกวันละหลายล้านบ าท ตอนนี้ยอมรับว่าเครี ย ดมาก ยังไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร เพราะไม่มีปัญญาหาเงินไปช ดใช้ค่าภาษีจำนวนมาก

ภาพจาก เฟซบุ๊ก ท้องถิ่น หนังสือพิมพ์ข่าวระยอง ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์  เรียบเรียงโดย  เพจสายบุญ

Facebook Comments