Monday, 25 September 2023

อาณาจักร ‘เกลือ เป็นต่อ’ บั้นปลายชีวิตหลังลาวงการ ใช้ชีวิตสมถะที่บ้านเกิด

05 Jul 2022
244

สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านที่น่ารัก ได้มาพบเจอกันอีกแลัว กับแอดมินและทีมงานเพจสายบุญ เราจะคอยนำเสนอเรื่องราวดีๆ ให้ความใจโลงใจและมีประโยชน์แก่แฟนเพจทั้งหลายให้ท่านได้อ่านอยู่เป็นนิจนะคะ  วันที่ชีวิตไม่ข าดทุน คือ วันที่ทำบุญ และให้อภัย วันที่ชีวิตมีกำไร คือ วันที่ตั้งใจทำความดี ฝากไว้เตือนใจนะคะ

เตรียมทิ้ งวงการเป็นเกษตรกร! อาณาจักร ‘เกลือ เป็นต่อ’ ลุยดำนาปลูกข้าว ใช้ชีวิตสมถะที่บ้านเกิดอุดรธานี เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีสำหรับ ‘กิตติ เชี่ยววงศ์กุล’ หรือที่หลายๆคนรู้จักกันในนามของ ‘เกลือ เป็นต่อ’ จากบทบาทของ ‘วอก’

จากละครซิตคอมเรื่อง ‘เป็นต่อ’ ร่วมกับ ‘ชาคริต แย้มนาม’ , ‘เจี๊ยบ เชิยยิ้ม’ และ ‘อู๊ด เป็นต่อ’ นั่นเอง และต้องบอกเลยว่า ‘เกลือ เป็นต่อ’ นั้นไม่เพียงแค่เก่งเรื่องการแสดงเท่านั้น เพราะเจ้าตัวยังเป็นนักเขียนบท และผู้กำกับละครจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น ‘เฮง เฮง เฮง’ , ‘บ้านนี้มีรัก’ , ‘ยีนเด่น’ , ‘บางรักซอย 9’ , ‘ผู้กองเจ้าเสน่ห์’ รวมถึงซิตคอมเรื่อง ‘เป็นต่อ’ ที่เจ้าตัวแสดงอีกด้วย ล่าสุดทางด้าน ‘เกลือ เป็นต่อ’

ได้ทิ้ งชีวิตเมืองกรุง ทำฟาร์มที่บ้านเกิด จ.อุดรธานี ตามรอย ‘ชาคริต แย้มนาม’ โดยทางด้าน ‘เกลือ เป็นต่อ’ ได้ลงทุนซื้อที่ทำฟาร์ม พร้อมกับขุดเจาะหาบ่อน้ำไว้สำหรับการเตรียมทำเกษตร ในช่วงบั้นปลายของชีวิต โดยเจ้าตัวเคยได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า

“เรื่องมันเริ่มจากก่อนหน้านี้ อยู่กทม. รู้สึกว่าไม่มีอะไรทำ ก็กลับบ้านที่อุดรฯ ดีกว่า ในใจลึก ๆ ที่อย ากจะมีฟาร์ม มีไร่ เรากับภรรยาอย ากมีอยู่แล้ว

แต่เรายังไม่ได้เริ่มลงมือทำสักที พอกลับไปบ้านก็รู้สึกว่าแม่เราอายุมากแล้ว เรารู้สึกว่าอย ากกลับไปดูแลแม่ แต่ถ้าเรากลับไปเราก็ไม่รู้ว่าจะไปทำอะไรที่อุดรฯ

ไปถึงก็ไม่มีอะไรทำ ก็เลยคิดว่าถ้ามีอะไรทำมันก็น่าจะดี ผมก็คิดได้ว่าจริง ๆ เราก็ซื้อที่ไว้นานแล้วที่อุดรฯ ก็คุยกันในครอบครัว คุยกับน้องเขยด้วยว่าเราอย ากทำ น้องเขยก็เลยออกแบบที่ให้ ปรากฎว่าทุกอย่างมันก็ลงตัวพอดี ส่วนหนึ่งเราได้ฟังพระราชดำรัสในหลวง ร.9 เรื่องเกษตรทฤษฎีใหม่มาสักระยะนึง

มันก็คงดีนะถ้าเรามีที่สักที่ที่เราจะได้ปลูก ได้ทดลองในสิ่งที่เราได้ศึกษามา เราก็เริ่มเลย บอกว่าถ้าจะทำ ต้องทำตอนนี้ ถ้าไม่ทำตอนนี้ เรากลับกรุงเทพฯจะไม่มีเวลาทำแล้ว เพราะเราก็ไม่รู้ต่อไปต้นไม้มันก็น้อยลงเรื่อย ๆ เราไม่รู้ว่าเขาจะได้เรียนรู้ชีวิตที่ใกล้เคียงธรรมชาติแบบนี้หรือเปล่า ลูกเราก็ไม่รู้ว่าเขาจะมีหลานให้เราหรือเปล่า

พอเราแก่ไปก็คงจะดีถ้าเราทำที่ไว้ล่อเด็ก ๆ เอาลูกหลานคนอื่นมาเล่น ผมคิดว่าถ้าเราจะกลับบ้าน แล้วไปอยู่ในจังหวัดของเรา ได้พัฒนาที่นั่น ได้มีอะไรดี ๆ ให้กับที่นั่น ผมได้มีเวลาอยู่กับแม่ อยู่กับพ่อ พี่น้อง และครอบครัว เราก็เลยคุยกันขำๆว่า ไม่เห็นเป็นไร ในเมื่อเรามีสวนในแต่ละจังหวัด

เรื่องลาวงการ ลาไม่ลาวันหนึ่งก็ต้องลาจริงไหมยังไงวันนึงมันต้องมีวันที่ผมลาวงการอยู่แล้ว ไม่ผมลาเองก็ต้องไม่มีคนนิยมผม จนผมต้องลาวงการไปเอง มันเป็นสัจธรรมที่คนในวงการรู้ดีอยู่แล้ว”

ขอขอบคุณที่มา thaisiamnews.info  เรียบเรียงโดย เพจสายบุญ

Facebook Comments